เรื่องน่ารู้ ที่อาจจะยังไม่รู้?

เรื่องน่ารู้ ที่อาจจะยังไม่รู้?
มากันในแนววิทยาศาสตร์ พร้อมคำอธิบายเสร็จสรรพ

เรื่องน่าจะรู้ (ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้) มากันในแนววิทยาศาสตร์ พร้อมกับอธิบายรายละเอียดอย่างเสร็จสรรพ ใครอยากรู้เพิ่มมาอ่านกันได้นะ !



จระเข้น้ำตาไหลตอนกินอาหารจริงหรือ ?
-ระบบประสาทของต่อมน้ำตาและต่อมน้ำลายของจระเข้ทำงานร่วมกัน ทำให้เวลากินเหยื่อการทำงานของต่อมน้ำลายจะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำตา จระเข้จึงมีน้ำตาไหลออกมา


เพศของลูกเต่าเปลี่ยนไปตามอุณหภูมิจริงหรือ ?
-อุณหภูมิเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดเพศของเต่าว่า จะเป็น เพศผู้หรือเพศเมีย หากสถานที่ฝักไข่อยู่ในจุดรับแดด ไข่จะออกมาเป็นเพศเมีย หากสถานที่ร่มเย็นไข่จะออกมาเป็นเพศผู้


เวลาเลือดกำเดาไหล ให้เงยหน้าถูกหรือไม่ ?
-เวลเลือดกำเดาไหลอย่าตกใจให้นั่งนิ่งๆ จากนั้นก้มหัวไปข้างหน้าเล็กน้อย บีบรูจมูกทั้งสองข้างเบาๆประมาณ 5-10 นาที เพื่อห้ามเลือด ห้ามเงยหน้า ไม่งั้นเลือดอาจไหลลงคอ จากนั้นให้ใช้ผ้าประคบน้ำแข็งวางไว้ที่ดั้งจมูกเพื่อให้เลือดแข็งตัว ถ้า 30 นาทียังไม่หยุดไหลให้รีบไปโรงพยาบาล


ถ้าสะอึกแล้วกลั้นหายใจ จะหายไหม ?
-แก้สะอึกให้ลองหายใจลึกๆหรือทุบที่หลังเบาๆเพื่อกระตุ้นระบบประสาท วิธีนี้อาจทำให้อาการสะอึกหายไปได้ ไม่อย่างนั้นอาจลองหายใจออกยาวๆหรือเกร็งหน้าท้องเบาๆก็ได้ (การกลั้นหายใจยาวๆอาจส่งผลเสียอย่างอื่น)

ทำ ไ ม ...หั ว ใ จ ...ถึ ง เ อี ย ง ซ้ า ย ?

ทำ ไ ม หั ว ใ จ ถึ ง เ อี ย ง ซ้ า ย ?


เราใส่นาฬิกามือซ้าย
ที่ใส่มือซ้ายเพราะถนัดขวา
ยกมือซ้ายขึ้นมาดูเวลาได้ง่าย
แต่ถึงมีนาฬิกาเราก็ชอบไปสายอยู่ดี
นาฬิกาก็แค่บอกเวลา..ไม่ได้ทำให้เราไปเร็วขึ้น
คิดดูแล้ว..หัวใจก็อยู่ทางซ้ายเหมือนกัน
บางทีเราก็คิดนะ..ว่าอวัยวะในร่างกายที่มี2ชิ้น
จะอยู่ซ้าย-ขวาอย่าง
แขน,ขา,ลูกกะตาทำนองนั้น . .
แล้วที่มีชิ้นเดียว..ก็แสดงความโดดของมัน
อย่างจมูก,สะดือก็อยู่ตรงกลาง..ประมาณนั้น
แล้วทำไม..หัวใจถึงเอียงซ้ายล่ะ ? ?
บางทีเราก็คิดว่าที่เป็นงั้นก็เพราะ
ใครบางคนอยากเตือนให้เรารู้ว่า . .

หัวใจเราไม่หนักแน่นพอจะอยู่ตรงกลาง
แล้วก็ไม่มีมากพอจะแบ่งเป็นสองด้วยเหมือนกัน :)

เพราะเธอคือ "เพื่อน" :P

เพื่อน
เพราะเธอพิเศษ ..

เพื่อน คือ ... คนที่ไม่ต้องอยู่ด้วยกันก็รักกันได้
ไม่ต้องเห็นกันทุกวัน ... ก็รักกันได้
ไม่ต้องหวานใส่กัน ... ก็รักกันได้
แต่รักอยู่ฝ่ายเดียว ... เป็นเพื่อนกันไม่ได้
เพราะเพื่อน ...
ไม่ได้เกิดมาพร้อมหน้าที่ ... อย่างคำว่า ... พ่อแม่
ไม่ได้จบลงพร้อมหน้าที่ ... อย่างคำว่า ... แฟน
แต่เกิดจาก ...การกระทำซึ่งกันและกัน
จะอยู่หรือไป ... ใช้ "ใจ" เป็นเกณฑ์
จะอีกกี่นาน ... เพื่อนก็ยังเป็นทั้งรอยยิ้ม
และเสียงหัวเราะที่ไม่มีวันเลือนหาย



เพื่อนคือคนที่เราไม่ต้องนอนร้องไห้
คอยโทรศัพท์ทั้งคืน ... เพื่อนก็โทรมาหา
ฐานะ ... ไม่ใช่ตัววัดว่าใครเหมาะจะเป็นเพื่อนใคร
หน้าตา ... ไม่ใช่มาตรฐานว่าใครควรจะเป็นเพื่อนใคร
แต่น้ำใจ ... จะเป็นเครื่องชี้ให้เรารู้ว่าใครที่ควรจะเป็นเพื่อนเรา



เพื่อนคือ ... คนที่แอบมาปรุงแต่งชีวิตเรา
ซะจนกลายเป็นอาหารจานแปลก
มีทั้งหวาน ขม อมเปรี้ยว
เดี๋ยวเติมความห่วงใย เดี๋ยวใส่ความรัก
หมักความผูกพันจนได้ที่
สุดท้ายก็กลายเป็นอาหารจานดี ที่ไม่มีผักชีโรยหน้า
แต่ว่าเติมความจริงใจได้จนเต็มจาน



เพื่อน ... ก็เหมือนเสื้อตัวเก่ง
ที่เราจะหยิบมาใส่ทุกครั้งที่เราต้องการความมั่นใจ
และเมื่อพ้นเวลานั้นไป ...
เสื้อตัวนี้ก็ยังแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าใบเดิมเสมอ
เหมือนกับเพื่อนที่จะอยู่กับเราในวันที่เราไม่สบายใจ











ทำไมผู้ใหญ่ถึงห้ามวัยรุ่นมีความรัก ?

ทำไมผู้ใหญ่ถึงห้ามวัยรุ่นมีความรัก ?


ผู้ใหญ่คงจะไม่ได้ห้ามเรื่องความรัก แต่คงจะห้าม "ความรักก่อนวัย" และ "ความรักที่ไม่ปลอดภัย" เสียมากกว่า ผู้ใหญ่ทุกคนไม่ว่าพ่อแม่หรือครูบาอาจารย์นั้น รักวัยรุ่นทุกๆ คน เพียงแต่ว่าบางครั้งผู้ใหญ่ยึดถือสุภาษิต "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" เลยดุมากไปหน่อย เด็กๆ ก็เลยกลัวไปเอง

ความรักในวัยเรียนนั้น ถ้าเป็นความรักที่บริสุทธิ์ เกิดขึ้นแล้วช่วยเหลือกันเรียน คิดถึงอนาคต มุ่งที่การศึกษา รักกันด้วยใจ ชวนกันไปในทางที่ถูก รักแบบนี้ไม่มีผู้ใหญ่คนไหน ห้ามหรอกครับ จะห้ามก็เพราะผู้ใหญ่กลัวว่ารักแล้ว จะชักชวนกันไปทำสิ่งที่ผิดที่ไม่เหมาะสม ไปมีความสัมพันธ์ทางกายก่อนวัยอันควร ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากกว่า

ดูแล้วรู้สึกดีจังเลย :')

ดูแล้วรู้สึกดีจังเลย :')
ใครกำลังเบื่อ เซ็ง เครียดต้องมาดู



เรารักนายนะเบบี้


หนูน้อยในดวงใจของแม่


จุ๊บแก้มกันสักนิด เพื่อความสดใส


เล็บยาวแล้ว หนูตัดเล็บให้นะ

กำลังยิ้มอยู่ใช่ไหมล่ะ ?!!!~

^________^





ทำไมเราถึงง่วงนอนตอนบ่ายๆ (_ _)zZZ



ทำไมเราถึงง่วงนอนตอนบ่ายๆ (_ _)zZZ




นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียได้วิจัยและค้นคว้าร่างกายของมนุษย์เราว่า ทำอะไรบ้างในแต่ละชั่วโมง


01.00 น. คนส่วนใหญ่จะนอนหลับ ร่างกายจะมีความรู้สึกไวต่อความเจ็บปวดมาก


02.00 น. นอกจากตับแล้ว ส่วนต่างๆ ของร่างกายจะเคลื่อนไหวช้ามาก


03.00 น. ร่างกายทั้งหมดจะพักผ่อน กล้ามเนื้อจะผ่อนคลาย ความดันจะต่ำ ชีพจรจะเต้นช้า การหายใจก็จะช้า


*04.00 น. สมองได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงน้อยมาก ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ตายไปในระยะเวลานี้


05.00 น. ไตจะไม่ทำหน้าที่กรอง เนื่องจากเราได้พักผ่อนมาระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้น ในเวลาตื่นนอนอารมณ์จะรู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ


06.00 น. ความดันเลือดจะสูงขึ้น หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น


07.00 น. ภูมิต้านทานโรคในช่วงนี้จะดีมาก เพราะร่างกายได้พักผ่อนมาแล้ว


*08.00 น. ตับจะทำหน้าที่ขับพิษออกจากร่างกาย ในช่วงนี้ไม่ควรดื่มสุรา


09.00 น. จิตใจ อารมณ์ การทำงานจะดีมากในช่วงนี้


10.00 น. เป็นช่วงที่ร่างกายและสุขภาพจะดีมาก เหมาะที่จะทำงาน


11.00 น. เป็นช่วงที่ขยันขันแข็งในการทำงาน ร่างกายยังไม่อ่อนเพลีย


12.00 น. ช่วงตอนที่จะหยุดงาน ทางที่ดีที่สุดอย่าเพิ่งรับประทานอาหาร ควรจะรอช้ากว่าไปอีกสักหน่อย แล้วทานเอาช่วงเวลาประมาณ 12.30 หรือ 13.00น. ก็จะดี


13.00 น. ตับจะพักผ่อน เนื่องจากเวลาการทำงานที่ดีได้ผ่านไปแล้ว ร่างกายในช่วงนี้จะเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย


*14.00 น. เป็นช่วงระยะเวลาที่ร่างกายรู้สึกอืดอาด เชื่องช้าที่สุดในระยะหนึ่งของแต่ละวัน


15.00 น. ระบบต่างๆ ของร่างกายจะมีปฏิกิริยาที่ไวมาก สมรรถภาพของพละกำลังเริ่มฟื้นฟูขึ้น


16.00 น. ในกระแสเลือด จะมีน้ำตาลเพิ่มขึ้น แต่ก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว


17.00 น. สมรรถภาพในการทำงานจะเพิ่มขึ้น จะเห็นได้จากนักกีฬาที่ออกกำลังกาย จะมีเรี่ยวแรงเพิ่มมากขึ้น 18.00 น. ความรู้สึกต่ออาการเจ็บปวดจะลดน้อยลง ขอให้เพิ่มการออกกำลังกาย


*19.00 น. ความดันของเลือดจะเพิ่มสูงขึ้น อารมณ์จะไม่ค่อยดีนัก มักจะเกิดงขึ้นได้ด้วยสาเหตุเล็กๆน้อยๆ 20.00 น. น้ำหนักตัวจะรู้สึกเพิ่มมากขึ้น สะท้อนออกถึงความผิดปกติอย่างรวดเร็ว


*21.00 น. อารมณ์จะกลับเข้าสู่สภาพปกติ ความจำจะดีขึ้น สามารถคิดสิ่งต่างๆ ออกได้


22.00 น. ในกระแสโลหิต จะเต็มไปด้วยเม็ดเลือดขาว อุณหภูมิในร่างกายจะลดต่ำลง


*23.00 น. ร่างกายตระเตรียมพักผ่อน เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ที่สึกหรอ


24.00 น. เข้าสู่ชั่วโมงแห่งการหลับไหล

สุภาษิตเจ๋งๆ แบบอินเตอร์ๆ :P

สุภาษิต อังกฤษ-ไทย แบบเท่ห์ๆ


Self-conquest is the greats of victory.

การชนะใจตนเอง คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

Blood is thicker than water.

เลือดข้นกว่าน้ำ

Heaven never helps the men who will not act.

สวรรค์ไม่เคยช่วยบุคคลผู้ซึ่งไม่ทำงาน

Time and tide wait for no man.

เวลาและกระแสน้ำไม่คอยใคร

Never too late to learn.

ไม่สายเกินไปที่จะเรียนรู้

Manners maketh man.

กิริยามารยาท ทำให้คนเป็นคน

If at first you don't succeed, try, try, try again.

หากครั้งแรกไม่สำเร็จ พยายาม พยายาม พยายามอีกครั้ง

Don't meet troubles half-way.

อย่าเผชิญปัญหาแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ

Better be a fool than a knave.

เป็นคนโง่ดีกว่าเป็นคนโกง

Every man to his trade.

ทุกคนมีความถนัดของตนเอง

ตาหวานฉ่ำ ด้วยท่าบริหารง่ายๆ :)

ตาหวานฉ่ำ ด้วยท่าบริหารง่ายๆ
EYE EYE EYES :)




การบริหารลูกตา กล้ามเนื้อตา และสมองรับภาพ การบริหารทั้งสามส่วนนี้จะช่วยให้คุณสามารถมองภาพต่างๆ ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น สิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็คือ วางมือจากแป้นคอมพิวเตอร์ หลบหน้าจากจอคอมพิวเตอร์ทุกๆ 1 ชั่วโมง จะดีที่สุด





1.การบริหารลูกตา หลับตาใช้อุ้งนิ้ว ย้ำว่า ‘อุ้งนิ้ว’ นวดเบาๆ วนรอบตาสัก 1 นาที หรือกระพริบตาถี่ๆ ทุกการใช้สายตาครบ 1 ชั่วโมง เพราะการกะพริบตาจะช่วยขับฟิล์มน้ำตาออกมาเคลือบตาของเราให้แลดูวิ้งๆ ปิ๊งๆ ตลอดเวลานั่นเอง



2.การบริหารกล้ามเนื้อตากล้ามตาของเรา เป็นส่วนหนึ่งของกล้ามเนื้อต่างๆ ที่ต้องการ ‘การพักผ่อน’ มากกว่ากล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ด้วยซ้ำ เพราะว่าเราต้องใช้กล้ามตาแทบตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนนอน อยากรู้ก็ลองสังเกตตอนคนที่บ้านของคุณหลับดูสิ… ยามที่เขาหลับสนิท เปลือกตาของเขาจะขยุกขยิกไปมา นั่นคือ ‘ช่วงกลอกตาเร็ว’ นั่นเอง เห็นหรือเปล่าว่า ใช้กล้ามตามากจริงๆ แต่ไม่ต้องห่วง เรามีวิธีการดูแลตาให้สุขภาพดี ด้วยสูตร ‘จักษุสปา’ สไตล์อายุรวัฒน์มาแนะนำกันค่ะ

สูตรจักษุสปาเริ่มกันตั้งแต่ตื่นนอนเลย ต่อจากนี้ตื่นมาแทนที่จะขยี้ตา เปลี่ยนเป็นเอาตาซุกลงไปกับฝ่ามือเบาๆ ทิ้งไว้สัก 1 นาที เพื่อเป็นการปรับสายตาให้พร้อมกับการมองเห็นความจริงทุกประการ พอมาถึงที่ทำงาน ทำงานไปได้สักชั่วโมง ลุกขึ้นเดินไปเดินมาบ้าง กะพริบตาเพื่อให้ฟิล์มน้ำตาออกมาเคลือบลูกตา ก่อนพักเที่ยงก็กะพริบตาถี่ๆ อีกสัก 10 วินาที






ช่วงบ่าย สายตาเริ่มล้า ให้หลับตาปี๋ๆ เลย แล้วเบิ่งตาโต ทำสลับกันครั้งละ 10 วินาที เป็นเวลาประมาณ 1 นาที หรือจะใช้อุ้งมือนุ่มๆ (รอบนี้อุ้งมือนะ!) ของเรากดตาไว้เบาๆ สัก 1 นาทีก็พอ จะให้สดชื่นสายตาอีกสักหน่อยก็หาผ้าเย็นเช็ดหน้านุ่มๆ ชุบน้ำเย็นๆ มาประคบสายตาของเราไว้ประมาณ 10 นาที จะทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น



ก่อนเลิกงาน หลังจากปิดคอมพิวเตอร์แล้ว ให้นั่งหลับตา หาที่มืดนั่งเงียบๆ สักพัก เพื่อเป็นการพักลูกตา และสมองส่วนรับภาพ เมื่อถึงบ้านแล้ว ดูทีวีได้ตามปกติ แต่ไม่ควรปิดไฟทั้งห้องจนมืด เพราะแสงจากทีวีจะจ้ามาก เป็นผลเสียต่อจอตาของเรา ที่สำคัญควรปิดสวิตช์ตา ไม่เกิน 5 ทุ่ม นอนพักได้แล้ว





ก่อนเข้านอน ให้ทำการขอบคุณสายตาที่ถูกใช้งานมาทั้งวัน ด้วยการพนมมือทั้งสองขึ้นมา เอานิ้วจรดกัน แล้วเอาอุ้งนิ้วทั้งสองมาประทับกับเปลือกตาที่หลับลง นวดวนเบาๆ ตามเข็มนาฬิกาสัก 1 นาที หากคนที่ตาแห้งก็เพิ่มเป็น 2 นาที พอตื่นนอนก็วนทำแบบครั้งแรก รับรองงานนี้ ‘ตาหวานฉ่ำ’ แน่ๆ





3.บริหารสมองรับภาพ ง่ายๆ เพียงแค่ ‘กลอกตา’ ไปมา แบบซ้ำๆ อย่ารีบ เดี๋ยวตาลาย ให้กลอกจากซ้ายไปขวา และบนลงล่าง ทำท่าแบบนี้เป็นการฝึกสมองไปในตัวด้วยค่ะ






ดูแลสุขภาพตาด้วย ‘จักษุโภชนา’ จำเป็นต้องกินผัก ‘เขียวจัด’ อย่างคะน้า เพราะจะมีวิตามินเอเยอะ และ ‘เหลืองแจ๊ด’ จำพวก ข้าวโพด ฟักทอง แครอท ซึ่งจะมีธาตุที่ชื่อ ‘ลูทีน’ กับ ‘ซีแซนทิน’ เป็นธาตุที่บำรุงสายตาโดยเฉพาะ ระวังเรื่องของการอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ หรืออยู่ใกล้กระจกสะท้อน เพราะอาจเป็น ‘ต้อ’ ได้ ให้ตรวจสอบว่า โต๊ะคอมพิวเตอร์ของเรา ตำแหน่งที่นั่งดีหรือยัง ตรวจสอบการสะท้อนของแสงที่เข้าตาของเรา ด้วยการปิดคอมพิวเตอร์แล้วเปิดไฟห้อง ดูว่าหน้าจอมีแสงไฟสะท้อนเข้าตาหรือเปล่า ถ้ามี ก็ต้องปรับตำแหน่งคอมพิวเตอร์จนกว่าจะไม่มีแสงสะท้อน

สายตาเป็นเรื่องที่มองข้ามไปไม่ได้เลย อย่าบอกว่าหขี้เกียจทำการบริหาร หรือไม่ว่างจากงานตรงหน้า หากวันหนึ่งสายตาของคุณแย่แล้ว คุณจะเอาสายตาดีๆ ของคุณมาทำงานต่อได้อย่างไร จริงหรือเปล่าคะ ???


Yogurt มีประโยชน์มาก !!~

Yogurt มีประโยชน์มาก
กินทีเดียวคุ้ม เพราะประโยชน์มันมากจริงๆ

-โยเกิร์ตเป็นอาหารที่กินง่าย บางอันมีรสชาติอร่อยเหมือนกับการกินของหวานเลยทีเดียว ยังสามารถกินได้ตลอดเวลา แต่ช่วงเช้ายามท้องว่างๆ จะดีมาก
-เมื่อกินโยเกิร์ตเข้าไปจะช่วยลดปริมาณสารที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก เช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์ การเดินทางของโยเกิร์ตยังเดินทางลงไปตามทางเดินอาหาร จุลินทรีย์ในโยเกิร์ตจะเข้าไปจัดการกับเชื้อจุลินทรีย์อื่นที่อยู่ในลำไส้ ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียได้
-ช่วยด้านภูมิคุ้มกันในร่างกายโดย ช่วยกระตุ้นการสร้างสารแอนติบอดี้และเพิ่มปริมาณสารอินเฟอร์รอน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค เป็นแหล่งวิตามิน บี1(ไรโบฟลาวิน) แบคทีเรียในโยเกิร์ตยังช่วยสังเคราะห์วิตามิน บีและวิตามิน เค ในลำไส้ด้วย


-โยเกิร์ตให้โปรตีนและแคลเซียมสูงกว่านมธรรมดา เพราะลำไส้ของเราย่อยนมไม่ได้ แต่โยเกิร์ตมีกรดแลกติกที่จะช่วยย่อยแคลเซียมให้เล็กลง ทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ สำหรับหนุ่มที่ดื่มนมแล้วท้องเสีย แบบพี่มิ้ง ลองหันมากินโยเกิร์ตก็ได้ เพราะน้ำตาลแลคโตสที่ทำให้เราวิ่งเข้าห้องน้ำเนี่ย จะถูกเปลี่ยนเป็นกรดแลคติกที่ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ง่ายและช่วยเรื่องระบบเผาผลาญอีกแหนะ




คำว่า " แม่ " นั้นมีความหมายว่าอะไร

คำว่า " แม่ " นั้นมีความหมายว่าอะไร




คำว่า แม่ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ คำนิยามว่า หญิงในฐานะผู้ให้กำเนิดแก่ลูก หรือคำที่ลูกเรียกหญิงผู้ให้กำเนิดตน คำว่า แม่ ตามทัศนะของคนไทยได้ให้ความสำคัญมาก นอกจากจะหมายถึงหญิงหรือสัตว์ตัวเมียที่ให้กำเนิดแก่ลูกแล้ว ยังให้ความหมายที่สำคัญต่อตำแหน่งของบุคคล สถานที่ และวัตถุสิ่งของด้วย เช่น แม่ทัพ แม่น้ำ แม่บท แม่พิมพ์ แม่เหล็ก เป็นต้น





ในทางพระพุทธศาสนา ในโสถนนทชาดกได้ให้ความหมาย คำว่า แม่ ดังนี้

สุหทา มาตา มารดาเป็นผู้ใจดี
ชนยนฺตี มาตา มารดาเป็นผู้ให้กำเนิด
โปเสนฺตี มาตา มารดาเป็นผู้เลี้ยงดู
โคเปนฺตี มาตา มารดาเป็นผู้คุ้มครองรักษา
วิหณฺณนฺติมาตา มารดาเป็นผู้เดือดร้อนเป็นห่วงเป็นใย
อนุกมฺปกา ปติฏฺฐา จ ปุพฺเพ รสทที จ โน มคฺโค สคฺคสฺส โลกสฺส
มารดาเป็นผู้เอ็นดู เป็นที่พึง เป็นผู้รส (น้ำนม) มาก่อน เป็นทางแห่งโลกสวรรค์

วันแม่ปีนี้บอกรักคุณแม่กันแล้วหรือยังจ๊ะ ถ้ายังก็รีบทำซะนะ


เนย เนย เนย !!!~

เนย เนย เนย !!! O0O
ชนิดของเนยแข็งฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อ อาทิ 1. รอคฟอร์ต (Roquefort) เนยกลิ่นแรงรสจัดมีเส้นสีฟ้าๆอยู่ในเนื้อเนย 2. กามองแบร์ (Camembert) เนยสีขาวนวลเนื้อนิ่ม มีเปลือกสีขาวรอบนอก ซึ่งกินได้ แต่ไม่ค่อยกิน3. บรี (Brie) เนยสีฟ้า หรือ Blueมาดูรูปของเนยแข็งกัน !!!
เนยแข็งรูปหัวใจ
Coeur de Chevre



Coeur de Neufchatel




Coeur d'Arras

ต่อไปเป็นเนยชื่อดังของฝรั่งเศส


Brie



Roquefort



Camembert

เนยแข็ง เป็นยังไงนะ ?

เนยแข็ง เป็นยังไงนะ ?


เนยแข็งมีมากกว่า 3,000 ชนิดทั่วโลก ดังนั้นเกณฑ์การแบ่งประเภทและชนิดของเนยแข็งจึงมีความหลากหลาย เนยแข็งบางประเภทแม้จะมีลักษณะเหมือนกันทุกประเภทแต่ก็มีชื่อเรียกต่างกันตามแต่ละท้องถิ่น วิธีการจำแนกประเภทของเนยแข็งจึงทำได้โดยอาศัยหลักเกณฑ์บางอย่าง เช่น ชนิดของน้ำนมที่ใช้ ระยะเวลาในการบ่ม เชื้อราที่ใส่ลงไปเพื่อแยกไขมันออกจากน้ำนม อุณหภูมิที่ใช้ในการหมักบ่ม พื้นผิวและความราบเรียบของเนยแข็ง


1.เนยแข็งประเภท Fresh Cheese คือ เนยแข็งที่ไม่ต้องผ่านความร้อนและไม่ต้องหมักบ่ม มีกลิ่นและรสไม่จัด ออกรสเปรี้ยวอ่อนๆ เนื้อในนิ่มเป็นครีม มีความชื้นสูง เช่น Cream Cheese, Feta, Mozzarella, Ricotta, Cottage Cheese, Mascarpone


2.เนยแข็งประเภท Soft-White Cheese คือ เนยแข็งที่ทำจากนมที่มีความเข้มข้นของครีมสูง เนื้อในจึงมีลักษณะเป็นครีมแข็ง ผิวนอกจะค่อนข้างบาง เมื่อทานแล้วจะค่อยๆละลายในปาก มีความชื้นน้อยกว่าเนยแข็งประเภท Fresh Cheese และจะต้องผ่านกระบวนการบ่มด้วยราสีขาวก่อนนำมาบริโภค เช่น Brie, Camembert, Neufchatel


3.เนยแข็งประเภท Natural-Rind Cheese คือ เนยแข็งที่ทำจากนมแพะตามแบบฝรั่งเศส มีพัฒนาการมาจากเนยแข็งประเภท Fresh Cheese แต่จะต้องผ่านการขับน้ำทิ้งมากกว่าจึงมีความชื้นน้อยกว่า หลังจากการบ่มเนยแข็งประเภทนี้จะมีรอยย่นพื้นบนผิวรอบนอกมาก มีรสชาติที่เด่นขึ้นด้วย เนยแข็งประเภทนี้จะบ่มด้วยราสีฟ้าค่อนข้างเทา มีจุดสีน้ำเงินออกน้ำตาลที่ผิวเนยแข็ง และเมื่อมีอายุมากขึ้นก็จะมีกลิ่นแรงขึ้นด้วย เช่น Crottin de Chavignol, Sainte-Maure de Touraine


4.เนยแข็งประเภท Wash-Rind Cheese คือ เนยแข็งผิวนอกมีความเหนียวและมีสีน้ำตาลส้ม ซึ่งเกิดจากการล้างด้วยน้ำเกลือระหว่างการบ่ม มีตั้งแต่กลิ่นหอมจากเครื่องเทศไปจนถึงกลิ่นฉุน เช่น Herve, Limburger, Munster


5.เนยแข็งประเภท Hard Cheese คือ เนยแข็งที่เกิดจากการนำหางนมออกไปมากจนความชื้นในเนยแข็งเหลือเพียงเล็กน้อย เปลือกเนยแข็งจะหนา เนื้อแข็ง ใช้เวลาบ่มนาน เช่น Cheddar, Emmemtal, Gouda, Pecorino, Romano, Beaufortการแบ่งเนยแข็งออกเป็น 5 ประเภทที่ได้กล่าวไปนี้เป็นเพียงตัวอย่างของการแบ่งประเภทเนยแข็งเพียงคร่าวๆ ในความเป็นจริงแล้วเนยแข็งทั้ง 5 ประเภทยังสามารถแบ่งย่อยได้อีก เช่น แบ่งตามประเทศที่ผลิต แบ่งตามการกดอัดและการปรุงแต่ง แบ่งตามใยหุ้มเชื้อรา เป็นต้น

10 ข้อ ที่ทำให้หล่อ สวย และหน้าใส

10 ข้อ ที่ทำให้หล่อ สวย และหน้าใส

ทำจากใจเท่านั้น รับรองว่าเห็นผลชัวร์!!!
ต่างก็อยากที่จะดู "หล่อ สวย หน้าใส และอ่อนเยาว์" อยู่ตลอดเวลาใช่ไหมจ๊ะ
ถ้า “ใช่” ก็ต้องทำ 10 ข้อนี้เลย..

แก้วมังกร : ผลไม้ประหลาดรสชาติอร่อย


แก้วมังกร
เป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานอร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แคลอรี่ต่ำอุดมไปด้วยวิตามินซี แมกนีเซียมและแคลเซียม แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูง เมล็ดสีดำเล็กๆ ที่กระจายอยู่ทั่วไปในผลแก้วมังกรจะอุดมไปด้วยไขมันที่ไม่อิ่มตัวซึ่งช่วยต่อต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น แก้วมังกรจึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน

สรรพคุณของแก้วมังกร

อีกอย่างหนึ่งคือใช้เป็นผลไม้เสริมสุขภาพและความงาม ใช้บริโภคเพื่อจุดประสงค์ในการลดน้ำหนัก เนื่องจากเมื่อกินแก้วมังกรแล้วจะรู้สึกอิ่มและในผลแก้วมังกรก็มีกากใยสูงประกอบกับให้แคลอรี่ต่ำจึงนิยมใช้บริโภคเพื่อลดน้ำหนัก

แก้วมังกรเป็นพืชในตระกูลกระบองเพชร
ซึ่งมีสารที่มีประโยชน์คือมิวซิเลจ (Mucilage) ที่มีลักษณะคล้ายวุ้นเจลช่วยดูดซับน้ำในร่างกาย ควบคุมระดับกลูโคสในคนที่เป็นโรคเบาหวาน (ชนิดไม่พึ่งอินซูลิน)ได้ แก้วมังกรยังมีประโยชน์ในการบรรเทาโรคโลหิตจางช่วยเพิ่มธาตุเหล็กให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ผลแก้วมังกรยังมีสรรพคุณในการป้องกันโรคหัวใจ มะเร็งลำไส้และต่อมลูกหมาก เบาหวานช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของกระดูกและฟัน

สับปะรด อาหารสมอง


สารอาหารที่อยู่ในสับปะรดมีประโยชน์จำนวนมาก
และมีคุณค่าทางยาสูง มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหารจำพวกเนื้อ เสริมการดูดซึมอาหาร ดับร้อนแก้กระหาย สับปะรดยังมีสารจำพวก น้ำตาล กรด วิตามิน อยู่หลายชนิด


การรับประทานสับปะรดเป็นประจำ
จะช่วยป้องกันโรค ไตอักเสบ ความดันโลหิตสูง หลอดลมอักเสบ สับปะรดที่เริ่มนิ่ม มีน้ำเหนียว ๆ ไหลออกมา แสดงว่าสุกมากเกินไปและเริ่มเน่า ไม่ควรรับประทาน

การรับประทานที่ถูกวิธี
คือ ใช้มีดใหญ่เฉือนเปลือกออกจนหมด จากนั้นจึงใช้มีดตัดส่วนตาออกเป็นร่องเฉียง เป็นแถว ๆ เอาส่วนตาออกแล้วตัดเป็นชิ้น แล้วเอาเกลือแกงทาให้ทั่วหรือมิฉะนั้นก็แช่ในน้ำเกลืออ่อน ๆ ประมาณ 2-3 นาที การทาเกลือหรือแช่ในน้ำเกลือนอกจากจะทำให้รสชาติดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการทำลายสารจำพวก Glycoalkaoid และ เอ็มไซม์ บางชนิด ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ หลังรับประทาน