วันลอยกระทง




ประวัติการลอยกระทงในเมืองไทย
การลอยกระทงในเมืองไทย มีมาตั้งแต่ครั้งสุโขทัย เรียกว่า การลอยพระประทีป หรือลอยโคม เป็นงานนักขัตฤกษ์รื่นเริงของประชาชนทั่วไป ต่อมานางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์สนมเอกของพระร่วง ได้คิดประดิษฐ์ดัดแปลงเป็นรูปกระทงดอกบัวแทนการลอยโคม การลอยกระทงหรือลอยโคมในสมัยนางนพมาศ กระทำเพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาทที่แม่น้ำนัมมทานที ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหนึ่งอยู่ในแคว้นทักขิณาบถของประเทศอินเดีย ปัจจุบันเรียกว่า แม่น้ำเนรพุททา


การลอยกระทงในปัจจุบัน
การลอยกระทงในปัจจุบัน ยังคงรักษารูปแบบเดิมเอาไว้ได้ตามสมควร เมื่อถึงวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงในเดือน 12 ชาวบ้านจะจัดเตรียมทำกระทงจากวัสดุที่หาง่ายตามธรรมชาติ เช่น หยวกกล้วยและดอกบัว นำมาประดิษฐ์เป็นกระทงสวยงาม ปักธูปเทียนและดอกไม้เครื่องสักการบูชา ก่อนทำการลอยในแม่น้ำก็จะอธิษฐานในสิ่งที่มุ่งหวัง พร้อมขอขมาต่อพระแม่คงคา
ตาม คุ้มวัดหรือสถานที่จัดงานหลายแห่ง มีการประกวดกระทง ประกวดนางนพมาศ และมีมหรสพสมโภชในตอนกลางคืน นอกจากนั้นยังมีการจุดดอกไม้ไฟ พลุ ตะไล ซึ่งในการเล่นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ วัสดุที่นำมาใช้กระทง ควรเป็นของที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ


เหตุผลของการลอยกระทง
สรุปเหตุผลของการลอยกระทงในประเทศไทยดังนี้
1. เพื่อขอขมาแม่คงคา เพราะได้อาศัยนำท่านกินและใช้ และอีกประการหนึ่งมนุษย์มักจะทิ้งและถ่ายสิ่งปฏิกูลลงไปในนำด้วย
2. เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานที ซึ่งประพุทธเจ้าทรงประทับรอยพระบาทประดิาฐานไว้บนหาดทรายที่แม่น้ำนัมมทานที ในประเทศอินเดีย
3. เพื่อลอยทุกข์โศกโรคภัย และสิ่งไม่ดี คล้ายกับพิธีลอยบาปของพราหมณ์
4. เพื่อบูชาพระอุปคุต ชาวไทยภาคเหนือให้ความเคารพแกพระอุปคุตอย่างสูง ซึ่งตามตำนานเล่าว่าเป็นพระมหาเถระรูปหนึ่งที่มีอิทธิฤทธิ์มากสามารถปราบพญา มารได้ การลอยกระทงไม่มีพิธีรีตอง เพียงแต่ขอให้มีกระทงจะทำด้วยอะไรก็ได้ เช่น ใบตอง การกล้วย กาบพลับพลึง เปลือกมะพร้าว กระดาษ จุดธูปเทียนปักที่กระทงแล้วอธิษฐานตามที่ตนปรารถนา เสร็จแล้วจึงลอยไปที่แม่นำลำคลอง



ไรขนตา ( Eyelash Mites ) เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจำพวกปรสิต พวกมันมีอยู่ประมาณ 65 สายพันธ์ แต่มีอยู่เพียง 2 สายพันธ์ที่อาศัยอยู่กับมนุษย์คือ Demodex folliculorum และ Demodex brevis ทั้งคู่ถูกเรียกรวมๆ กันว่า ไรขนตา ( Eyelash Mites ) สำหรับตัวผู้เมื่อโตเต็มวัยจะมีขนาดประมาณ 0.3-0.4 มิลลิเมตร ตัวเมียจะมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้ และสายพันธ์ brevis จะมีขนาดเล็กกว่าสายพันธ์ folliculorum มีลักษณะร่างกายกึ่งโปร่งใส ลำตัวยาว ประกอบไปด้วยสองส่วน คือส่วนบนเป็นส่วนที่มีขาสั้นๆ แปดขา

ไรขนตา จะเห็นว่าเมื่อส่องด้วยกล้องจุลทรรศย์จะมีร่างกายกึ่งโปร่งแสง รูปซ้ายถ่ายบริเวณหลังของไรขนตา และรูปกลางถ่ายด้านท้องจะเห็นส่วนบนมีขาเล็กๆ 8 ขา และรูปขวาจะเห็นได้ชัดเจนว่าลำตัวสามารถให้แสงผ่านได้


มีปากเหมือนเข็มที่ไว้สำหรับกินเซลผิวหนัง น้ำมันส่วนที่สองเป็นส่วนลำตัวที่จะฝังอยู่ในรูขุมขน (ขนตา , ผม , ขนเพชร) พวกมันสามารถเคลื่นอที่โดยการเดินไปตามผิวหนังอย่างช้าด้วยความเร็วประมาณ 8-16 เซ็นติเมตรต่อชั่วโมงในเวลากลางคืน เนื่องจากพวกมันไม่ชอบแสง วงจรชีวิตของไรขนตามีอายุประมาณไม่ถึงเดือน เมื่อตัวผู้มาพบตัวเมียก็จะผสมพันธ์กัน และออกไข่ไว้ในรัง ( รูขุมขน ) อีก 3-4 วันก็จะฟักเป็นตัว และใช้เวลาอีกประมาณ 7 วันก็จะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และเมื่อพวกมันตายลงก็จะใช้รูขุมขนเป็นหลุมฝังศพของพวกมัน มนุษย์ผู้ใหญ่ร้อยละ 95-98 มีไรขนตาอยู่บนร่างกาย แต่เด็กจะมีน้อยกว่าเนื่องจากมีน้ำมันที่ขับออกตามรูขุมขนน้อยกว่า ไรขนตาสามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสบริเวณ ขน ผม ไรขนตาอาจเป็นปัญหาให้เกิดอาการคันเล็กน้อย ไม่มีอันตรายร้ายแรง

เลือกรองเท้าอย่างไรไม่ให้กัด

เลือกรองเท้าอย่างไรไม่ให้กัด
- ขนาดรองเท้าแต่ละยี่ห้อที่ติดไว้บนรองเท้าไม่เท่ากันเสมอไป จึงควรลองใส่จริง อย่าซื้อเพียงแค่เป็นเบอร์เดียวกับที่เคยใส่
- เลือกรองเท้าที่เหมาะกับรูปเท้าของคุณ เช่นปลายเท้ากว้างไม่ควรเลือกรองเท้าหัวเล็กและแคบ
- ไปซื้อรองเท้าในช่วงบ่ายหรือเย็น เพราะเป็นเวลาที่เท้าขยายตัวมากที่สุด
- เท้าทั้งสองข้างของคนเราไม่เท่ากัน และขนาดเท้าจะเปลี่ยนไปเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้นก่อนซื้อควรทดลองใส่ทั้งสองข้าง พร้อมลองเดินเพื่อให้แน่ใจว่ารู้สึกสบายและกระชับทุกครั้งที่ก้าวเดิน
- ลองลุกขึ้นยืน เพื่อดูว่าหัวรองเท้ามีที่ว่างถัดจากปลายนิ้วเท้าที่ยาวสุดประมาณครึ่งนิ้ว หรือไม่ และให้ดูว่าข้อต่อนิ้วกระชับพอดีกับส่วนกว้างที่สุดของรองเท้าหรือไม่ ถ้าปลายนิ้วมีความยาวกว่าครึ่งนิ้ว หรือข้อต่อนิ้วพอดีกับรองเท้ามากเกินไป แสดงว่าคับ ควรเปลี่ยนเป็นคู่ที่ใหญ่กว่าหนึ่งไซส์
- พื้นรองเท้าด้านในควรมีผิวสัมผัสนุ่ม รองรับแรงกระแทกที่เกิดจากการเดินได้ดี และไม่มีช่องว่างระหว่างฝ่าเท้าและพื้นรองเท้าขณะสวมใส่
- ส้นรองเท้า ควรกระชับพอดีกับด้านหลัง ไม่ขยับขึ้นลงได้

แต่หากเลือกมาอย่างดีแล้ว รองเท้าใหม่เจ้ากรรมก็ยังทำไม่ประสงค์ดีต่อเท้าของเราจนได้ อย่างนี้ก็ต้องหาวิธีดูแลเท้าเป็นการด่วน

ความรู้เบื้องต้น

ตุ่มน้ำพอง คือผิวหนังบริเวณที่พองบวมขึ้นเนื่องจากมีของเหลวคั่งอยู่ภายใน ซึ่งเป็นผลมาจากการเสียดสีซ้ำๆ ระหว่างเท้าและรองเท้า
ข้อควรระวัง

ตุ่มน้ำพองมักเกิด บริเวณที่ผิวหนังเสียดสีกับรองเท้าหรือถุงเท้า และบริเวณที่ถูกรัดแน่น ทำให้ผิวเหนอะหนะและเพิ่มแรงเสียดสีกับรองเท้า ซึ่งถ้าหากเริ่มมีรอยแดงและอาการเจ็บ ถือว่านั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าผิวหนังชั้นนอกสุดเริ่มแยกตัวออก และจะกลายเป็นตุ่มพองในไม่ช้า

ทางออก
- ส่งรองเท้าใหม่ที่มีหนังแข็งกระด้าง ไปให้ร้านซ่อมรองเท้าใช้เครื่องมือถ่างให้หนังยืดตัวออก จะช่วยให้รองเท้าหนังคู่ใหม่นิ่มขึ้นได้
- ทาวาสลีนบริเวณผิวเพื่อลดการเสียดสี ดูแลเท้าให้แห้งเสมอ สวมถุงเท้าขณะออกกำลังกายเพื่อช่วยดูดซับความชื้น ถ้าเท้าเปียก ให้โรยแป้งฝุ่นสำหรับเท้าเพื่อทำให้ผิวแห้ง
- ติดปลาสเตอร์หรือแผ่นรองกันกระแทกเพื่อบรรเทาอาการเจ็บและลดแรงเสียดสี




จาก :: http://webboard.yenta4.com/topic/435927




มาเตรียมรับมือไม่ให้ 'หมากัด' ด้วยคำแนะนำจากเรากันเถอะ

เชื่อมั้ยว่าในแต่ละปีที่สหรัฐฯ มีคนถูกสุนัขกัดมากกว่า 4.7 ล้านคน และ 60% เป็นเด็ก แต่เราสามารถปลอดภัยจากคมเขี้ยวน้องหมาได้หากเรารู้จักรับมือ

* อย่าจ้องตาสุนัขตรงๆ อย่างนี้ถือว่า "หาเรื่อง"

* อย่าวิ่งผ่านหรือวิ่งหนีเจ้าตูบ มิเช่นนั้นอาจเกิดอาการมันเขี้ยวจนวิ่งมาไล่คุณได้

* ห้ามยุ่งกับสุนัขที่กำลังกินหรือนอนหลับอยู่เด็ดขาด ข้อนี้รวมถึงสุนัขแม่ลูกอ่อนด้วยนะ

* ถ้ามันกำลังขู่ใส่เรา อย่าตะโกน ให้ไล่อย่างใจเย็น จากนั้นก็อยู่นิ่งๆ จนกว่าสุนัขจะเป็นฝ่ายเดินหนีไปเอง

* หากถูกสุนัขโจมตี ให้หาของให้มันกัดอย่างเสื้อหรือรองเท้า แต่ถ้าล้มให้พยายามขดตัวเอาไว้แล้วเอามือปิดหน้าไม่ให้มันกัดได้

นะคะ กับ น่ะค่ะ (ภาษาไทยที่มักใช้กันผิด)

ความแตกต่างของคำว่า "นะคะ" กับ "นะค่ะ"


คะ ค่ะ ....... สองคำนี้แหละเจอบ่อยที่สุด (คะ = เสียงวรรณยุกต์ ตรี , ค่ะ = เสียงวรรณยุกต์ เอก) มันใช้ไม่เหมือนกันนะครับ ผมจะยกตัวอย่างเช่น

ขอบคุณนะคะ ไม่ใช่ ขอบคุณน่ะค่ะ
ใช่ค่ะ ไม่ใช่ ใช่คะ
ถูกไหมคะ? ไม่ใช่ ถูกไหมค่ะ?
สวัสดีค่ะ ไม่ใช่ สวัสดีคะ
เห็นด้วยไหมคะ? เห็นด้วยค่ะ ไม่ใช่ เห็นด้วยไหมค่ะ? เห็นด้วยคะ

คิดง่ายๆ ดังนี้

คะ ใช้เวลาตั้งคำถาม เช่น ใช่ไหมคะ, ไปไหนมาคะ, สบายดีไหมคะ, อะไรนะคะ
ค่ะ ใช้เวลาตอบคำถาม เช่น ถูกต้องค่ะ, ใช่ค่ะ, กลับมาจากเซ็นทรัลฯ ค่ะ, สบายดีค่ะ

เกี่ยวกับคำว่า ขอบคุณค่ะ ไม่ใช่ ขอบคุณคะ
แต่ถ้าจะใช้เป็น ขอบคุณนะคะ ไม่ใช่ ขอบคุณนะค่ะ

ทายนิสัยจากการส่องกระจก :)


ยิ้มเสมอ
คน นี้จะยิ้มใส่กระจกทุกครั้งที่เดินผ่าน ไม่ได้หมายความว่าหลงตัวเองนะ ที่จริงคนแบบนี้เป็นคนง่าย ๆ คบคนได้ทุกเพศทุกวัย เขาเป็นเพื่อนที่วิเศษเลย

ทำหน้าตาให้ดูดีก่อนส่องกระจก
คนที่ทำหน้าตาให้ดูดีก่อนส่องกระจก เป็นคนรักสนุก ไม่ช่างคิด ไม่จุกจิก เป็นคนใจกว้าง และชอบเรื่องสนุก ๆ

รักสวยรักงาม
คน ๆ นี้ ถ้าเจอกระจกทีไหนจะต้องหยุดทักทายกระจกทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน แสดงว่าเป็นคนที่มีความสามารถเป็นเลิศในเรื่องความรัก แต่ก็ต้องการความมั่นคงสูง ชอบเอาอกเอาใจคนอื่น

ช่างสำรวจ
ใคร ก็ตามที่ยื่นหน้าเข้าไปเกือบชิดกระจก แล้วค่อย ๆ ตรวจตรา ใบหน้าที่ละเซนต์หน่ะ รู้นะคิดอะไรอยู่ เป็นคนช่างคิด ขี้ระแวงสงสัย หมั่นไตร่ตรอง ก่อนจะออกความเห็นอะไร ต้องคิดแล้วคิดอีก แต่คนประเภทนี้จะเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์มาก

ทำหน้าขมึงทึง
ทำหน้าบูดบึ้งใส่กระจก เป็นคนใจแคบ เอาตัวเองเป็นที่ตั้งในทุก ๆ เรื่อง ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น

ไม่ชอบ หรือไม่สนใจที่จะส่องกระจก
คือ วัน ๆ แทบไม่มองกระจกเลย เพราะไม่ค่อยใส่ใจภาพพจน์ทางร่างกายเท่าไหร่นะ เป็นคนโดดเดี่ยว เอาจริงเอาจังกับชีวิต คนนี้ล่ะเหมาะที่จะมอบหมาย งานให้มากที่สุด

กว่าจะมาเป็นธงชาติไทย

ธงผืนแรก ธงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีแดงเกลี้ยง ใช้ใน สมัยอยุธยา - พ.ศ. 2325(ธงเรือหลวง) สมัยอยุธยา - พ.ศ. 2398(ธงเรือเอกชน)

การบังคับใช้ ใช้เป็นธรรมเนียมสืบมาตั้งแต่สมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ธงค้าขาย (ถึง พ.ศ. 2398) ธงเรือหลวง (ถึง พ.ศ. 2325)


ธงผืนที่ 2 ธงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีแดง กลางมีรูปจักรวงใหญ่สีขาว ธงเรือหลวง

การบังคับใช้ พระบรมราชโองการใน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พ.ศ. 2325 - 2360


ธงผืนที่ 3 ธงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีแดง กลางมีรูปช้างเผือกในวงจักรสีขาว ธงเรือหลวง

การบังคับใช้ พระบรมราชโองการใน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พ.ศ. 2360 – 2398


ธงผืนที่ 4 ธงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีแดง กลางมีรูปช้างเผือกเปล่าหันหน้าเข้าหาเสาธง ธงชาติ ธงค้าขาย และธงราชการ

การบังคับใช้ พระบรมราชโองการใน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชบัญญัติว่าด้วยแบบอย่างธงสยาม รศ. 110

พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 116
พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 118
พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129

(พ.ศ. 2398 - 2459)


ธงผืนที่ 5 ธงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีแดง กลางมีรูปช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่นหันหน้า

เข้าหาเสาธง ธงราชการ

การบังคับใช้ พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129 (ธงราชการ)
พระบรมราชโองการ ประกาศเพิ่มเติมและแก้ไขพระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129 พ.ศ. 2459

(พ.ศ. 2459 - 2460)


ธงผืนที่ 6 ธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 6 ส่วน ยาว 9 ส่วน แบ่งเป็นแถบสีขาวสลับแดงห้าแถบ แถบสีแดงและสีขาวชั้นนอกกว้างแถบละ 1 ส่วน แถบสีแดงตรงกลางกว้าง 2 ส่วน

ธงค้าขาย


การบังคับใช้ พระบรมราชโองการ ประกาศเพิ่มเติมและแก้ไขพระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129 พ.ศ. 2459(ในชื่อ\"ธงค้าขาย\") (พ.ศ. 2459-2460)


ธงผืนที่ 7 ธง สี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 6 ส่วน ยาว 9 ส่วน แบ่งเป็นแถบริ้วห้าแถบ แถบกลางสีน้ำเงินกว้าง 2 ส่วน แถบสีแดงและสีขาวชั้นนอกกว้างแถบละ 1 ส่วน
ธงชาติและธงราชการ


สระผมวันไหนดี ไม่ดี .. (ความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ)


ดูวันสระผม

สระผม

· สระผม วันอาทิตย์ จะมีอายุยืน

· สระผม วันจันทร์ จะมีแต่โชคลาภ ร่ำรวยเงินทอง

· สระผม วันอังคาร จะชนะศัตรู

· สระผม วันพุธ ไม่ดี จะเป็นความ หรือถูกใส่ร้ายป้ายสี

· สระผม วันพฤหัสบดี ดีมาก และเทวดาจะรักษา เป็นสิริสวัสดิ์กับตัวท่านเอง

· สระผม วันศุกร์ ดี จะอยู่เย็นเป็นสุข

· สระผม วันเสาร์ ดีมาก ทำสิ่งใดคิดสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จ


ผิวใส..ทำอย่างไรกันนะ ???