"ผีอำ" ชื่อที่ฟังดูน่ารัก แต่ไม่ได้ "อำ" น่ารักอย่างชื่อ เชื่อว่าน้องๆ หลายคนน่าจะรู้จัก หรือ ถ้าแย่หน่อยอาจจะเคยเจอด้วยตัวเอง พี่มิ้นท์เองก็เคยค่ะ!! แต่แค่ครั้งเดียวในชีวิต (ครั้งเดียวก็ไม่อยากเจอแล้ว) ใครที่ไม่เคยเจอประสบการณ์นี้กับตัว ก็คงจินตนาการถึงความรู้สึกนี้ไม่ออกแน่ๆ แต่ถ้าอยากรู้ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน ลองถามเพื่อนที่เคยเป็นดูสิ กรี๊ดด~~
อาการผีอำ เป็นอาการที่ขยับตัวทำอะไรไม่ได้ซักอย่างตอนนอน รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทับ ทำให้หายใจไม่ออก หรือ หายใจติดขัด อาจจะลืมตาไม่ขึ้น อ้าปากพูดไม่ได้ เรียกได้ว่า ทรมานสุดๆ บางคนอาการหนักหน่อยก็เห็นภาพหลอนเป็นเงาบ้าง เป็นคนบ้าง ก็ว่ากันไป ทำให้เกิดอาการกลัว ความกลัวเหล่านี้นี่แหละ ทำให้เราจินตนาการไปว่าเป็นเรื่องที่หาเหตุผลมารองรับไม่ได้ จึงโบ้ยให้เป็นความผิดของผีไปเกือบหมด บางคนสวดมนต์อาการเหล่านี้ก็หายไป ยิ่งตอกย้ำความเชื่อเรื่องผีอำเข้าไปอีก แต่ความเป็นจริง ทางวิทยาศาสตร์ก็มีเหตุผลมาอธิบายปรากฏการณ์นี้เหมือนกัน
"ผีอำ" หรือโรค sleep paralysis ทางการแพทย์อธิบายว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจาก สมองตื่นไม่พร้อมกัน คือ สมองที่ควบคุมในส่วนความคิด ความรู้สึกนั้นตื่นแล้ว (อาจจะตื่นไม่เต็มที่ ) แต่ในส่วนของการควบคุมการเคลื่อนไหวยังไม่ทำงาน จึงขยับตัวไม่ได้ เช่น เวลาเราตื่น โดยทั่วไปก็จะพลิกตัว แต่เผอิญร่างกายโดนล็อคซะงั้น เพราะสมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหวยังไม่ตื่นนั่นเอง ก็อาจจะมีการตกใจกลัวเป็นธรรมดา ซึ่งอาการนี้จะเกิดขึ้นในระหว่างใกล้ตื่นนอนหรือช่วงเคลิ้มหลับค่ะ
ถ้าพูดถึงอาการสมองตื่นไม่พร้อมกัน ฟังดูน่ากลัวแบบนี้ แต่ขอบอกว่าไม่เป็นอันตรายอะไรทั้งนั้นค่ะ ตามที่ได้บอกไปแล้วว่าอาจจะแค่ขยับตัวไม่ได้ เพียงแค่นาทีเดียวหรือไม่กี่นาทีก็จะหายไป ไม่ถึงตายแน่นอน ฮ่าๆ แต่ช่วงที่ขยับตัวไม่ได้นี่แหละที่ทรมานสุดๆ ก็เลยรู้สึกว่าช่างเป็นอาการที่หนักหนาสาหัสเหลือเกิน
นอกจากนี้ยังเป็นอาการที่อาจจะสัมพันธ์กับความฝันด้วย โดยเกิดจากฮอร์โมนชนิดหนึ่งในร่างกายที่ออกมาในขณะที่นอนหลับ ทำให้ร่างกายขยับไม่ได้ในขณะฝัน เพื่อไม่ให้ร่างกายเคลื่อนไหวตามความฝันอันจะเป็นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เช่น ฝันว่าวิ่งอยู่ก็ไม่ต้องออกไปวิ่ง ฝันว่าเอามีดแทงตัวเองก็ไม่ต้องเอามีดแทงตัวเอง เป็นต้น โดยฮอร์โมนนี้จะหมดไปก่อนที่ฝันจะจบ แต่คนที่เกิดอาการผีอำ ก็เพราะว่า ดันตื่นขึ้นมาก่อนฝันจะจบ ฮอร์โมนนั้นก็ยังคงทำงานบังคับไม่ให้ร่างกายเคลื่อนไหว แต่สมองการรับรู้ตื่นแล้ว จึงขยับร่างกายไม่ได้ ซึ่ง ณ จุดๆ นี้ ถ้าเราฝันร้ายว่าเจอผี หรือเจออะไรน่ากลัวๆ แล้วดันตื่นขึ้นมาในขณะที่ฮอร์โมนทำงานล่ะก็ สติกระเจิงแน่นอน เพราะขยับตัวจะหนีก็หนีไม่ได้ จากแค่ฝันก็เลยมาหลอนในความจริงซะนี่
อาการผีอำ อาจมีอาการประสาทสัมผัสหลอนๆ ร่วมด้วย (ไม่ได้เกิดขึ้นทุกคน) ซึ่งขอบอกว่าหลอนจริงๆ ค่ะ เช่น อาจจะให้ความรู้สึกเหมือนมีคนมานั่งทับ ถูกจับขา อาจได้ยินเสียงคนหายใจ เสียงกระซิบ เสียงหึหึ(แค่จินตนาการถึงเสียงนี้ ก็เฮี้ยนแล้ว) หรือ ถ้าทางการมองเห็น ก็อาจจะมองเห็นเงาคน หรือ เห็นเป็นเงารางๆ เหมือนหมอกควัน นอกจากนี้ประสาทสัมผัสทางการได้กลิ่นก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน เช่น ได้กลิ่นเหม็นสาป ทำนองนี้ แหม... ประสาทสัมผัสทำงานครบแบบนี้ เกิดขึ้นกับใครก็คงเข็ดขยาดหวาดกลัว เป็นประสบการณ์ร้ายๆ แน่นอน
สำหรับสาเหตุของอาการผีอำ อาจเกิดจากหลายๆ ปัจจัย เช่น นอนในท่านอนหงาย (ไม่เคยเห็นคนโดนผีอำตอนนอนตะแคงเลย), พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือ นอนหลับในขณะที่ร่างกายเพลีย หรือเมื่อยล้าแบบสุดๆ , การเข้านอนไม่เป็นเวลา, เครียด หรือเกิดสภาวะทางจิตอื่นๆ เช่น โกรธ เสียใจ คิดมากก่อนนอน ฯลฯ หรือเกิดจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป อันนี้พี่มิ้นท์มองในแง่ที่ว่าอาจจะหมายถึง แปลกที่นั่นเอง แต่ถ้าน้องๆ คนไหนที่เคยเป็น แต่ไม่ได้มีปัจจัยตามที่บอกมานี้สงสัยจะโดนผีอำจริงๆ แล้วล่ะค่ะ อ๊ากก!!
ส่วนวิธีแก้ไข ก็คงต้องแก้กันที่สาเหตุล่ะค่ะ ถ้ารู้ตัวว่าอดหลับอดนอน คราวหลังก็อย่าทำอีก นอนพักเยอะๆ และควรนอนให้เป็นเวลา ลองเปลี่ยนนิสัยการนอนให้เป็นตะแคงข้างบ้าง (ควรตะแคงขวาด้วยนะ จะได้ไม่ทับหัวใจ) ก่อนนอนก็ทำใจให้สบาย อย่าหมกมุ่นคิดมากในเรื่องต่างๆ เพราะอาการผีอำเป็นอาการที่เกิดทั้งระบบสมองและสภาพจิตใจ ดังนั้นเราต้องดูแลทุกระบบให้ดีไปพร้อมๆ กัน อ้อ..ที่สำคัญ อย่าไปวิตกกลัวจนเกิดเหตุ ให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่ตอบสนองมาจากสภาพร่างกาย ในขณะนอนหลับและมีโอกาสเป็นไปได้ทุกคน ไม่เกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์ใดๆ ค่ะ เพราะพี่มิ้นท์สวมสร้อยพระเป็นประจำ ยังเป็นมาแล้วเลย แต่ถ้าใครมีสาเหตุไม่เข้าข่ายที่บอกไว้ ก็ตัวใครตัวมันค่า...
ที่มา : http://www.dek-d.com/content/education/25873/นอนไม่ดี...-ระวังผีมาอำนะ-บรึ๋ย.php
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 Response to "นอนไม่ดี... ระวังผี(มา)อำนะ บรึ๋ย!!"
แสดงความคิดเห็น